สร้างบ้าน งบบานปลาย เป็นปัญหาที่คู่กับเจ้าของบ้านแทบทุกหลัง จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับว่าความพร้อมในการเตรียมการก่อสร้างอย่างไรบ้าง หรือแม้แต่หากเตรียมตัวมาดีแล้วก็อาจพลาดท่ากับจุดไม่อาจคาดคิดได้เช่นกันเนื้อหานี้ จึงนำข้อมูลมาบอกจากประสบการณ์ของโดยตรงของผม และส่วนที่ผมช่วยเจ้าของบ้านท่านอื่นดูแลงาน เรามารับทราบกันครับ
สร้างบ้าน งบบานปลาย เพราะอะไรเรามีคำตอบ
1 กำหนดงบก่อสร้างผิดพลาดตั้งแต่ก่อนเริ่มสัญญา
ส่วนใหญ่มาจากการค้นหาข้อมูลการสร้างบ้านในอินเตอร์เน็ต ที่มีการแจ้งราคาเพื่อเรียกยอดผู้เข้าชมเพราะราคาบ้านที่ต่ำกว่าปกติจะทำให้เกิดเป็นจุดสนใจ ทำให้เจ้าของเพจได้ยอด Like ยอด Share ข้อมูลแบบนี้จึงแพร่กระจายในหมู่นักท่องเน็ตได้ไวมาก จนทำให้เจ้าของบ้านเมื่อพบข้อมูลดังกล่าวก็นำไปประมาณการต้นทุนไว้ก่อน แต่ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลเชิกลึกว่าราคาดังกล่าวยังไม่รวมอะไรอีกหลายๆอย่าง
เช่นไม่รวมดวงโคม ไม่รวมสุขภัณฑ์ เป็นต้น และส่วนใหญ่ที่กำลังคิดจะสร้างบ้านก็จะเพียงแค่หาราคาต่อตารางเมตรไว้ เพื่อทราบเช่น 12,000บาท|ตารางเมตร เมื่อคาดการณ์ไว้เช่นนั้นแต่ไม่ได้ทราบถึงว่าครบจบหมดรึไม่ในการสร้างบ้านก็จะทำให้งบบานปลายแน่นอน
2 เลือกผู้รับเหมาสร้างบ้านราคาถูกเกินจริง
เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่าเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ต้องการบ้านราคาถูกและส่วนมากจะเป็นการสร้างบ้านหลักแรก จึงขาดประสบการณ์ จนทำให้ผู้รับจ้างหาผลประโยชน์จากเรื่องนี้ได้ง่าย เพราะผู้รับจ้างประเภทนี้จะใช้วิธีเสนอราคาต่ำเพื่อให้ตนเองงานก่อนแต่ในราคานั้นยังไม่รวมรายการที่จำเป็นอีกมาก
เพราะในมุมของเจ้าของบ้านเมื่อเห็นรายการราคาแต่ละจุดที่เยอะมากเป็นร้อยรายการ หรือที่เรียกว่า BOQ เจ้าของบ้านก็จะมักจะคิดไปเองว่ารายการนั้นต้องรวมทุกอย่างมาให้แล้วเพราะเจ้าของบ้านมักจะพอใจกับตัวเลขยอดรวมในรายการ BOQ ไปแล้วนั่นเอง และเมื่อพอถึงงวดงานที่จะต้องใช้วัสดุต่างๆที่ผู้รับจ้างไม่ได้คิดไว้ในใบเสนอราคา BOQ ผู้ว่าจ้างก็จะแจ้งมาทีละข้อว่าในส่วนนี้ส่วนนั้นยังไม่รวมในราคามา
เมื่อถึงตอนนั้รหากเราเจ้าของบ้านไม่ยอมที่จะจ่ายเพิ่มในส่วนดังกล่าวผู้รับเหมาก็พร้อมที่จะไปและไม่ผิดสัญญาที่ทำขึ้นด้วย ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจว่าจ้างผู้รับเหมารายใด ต้องตรวจสอบรายการใน BOQ ให้ถี่ท้วนว่าครบทุกอย่างตามที่ตกลงกันไว้แล้ว และขอแนะนำหากไม่ชำนาญการในเรื่องดังกล่าวควรต้องหาที่ปรึกษาไว้เพื่อช่วยตรวจสอบในเรื่องนี้และในทุกๆเรื่องเกี่ยวกับการก่อสร้างครับ
3 กลัวเปลืองที่ต้องจ้างที่ปรึกษาหรือวิศวกร สถาปนิกเข้าช่วยตรวจสอบงาน
เพราะบุคคลดังที่กล่าวมานั้นจะอยู่ฝั่งเดียวกับเจ้าของบ้านคอยรักษาผลประโยชน์ให้เจ้าของบ้าน เนื่องจากด้วยจรรยาบรรณของอาชีพดังที่กล่าวมาต้องการงานที่ออกมาตรงตามแบบ และ ยิ่งหากเป็นบริษัทออกแบบหรือมาจากการจ้างงานด้วยแล้วการตรวจสอบให้ตรงตามแบบและได้มาตรฐานงานก่อสร้างจะเป็นสิ่งที่ต้องยึดมั่นไว้แน่นอน
แต่ทั้งนี้ทีมที่เข้ามาตรวจสอบงานของผู้รับจ้างต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างเลย ต้องมีหน้าที่ออกแบบ หรือตรวจสอบเพียงเท่านั้นเหตุที่บุคคลกลุ่มดังกล่าวจะทำให้งบก่อสร้างไม่บานปลายก็เพราะ มีการตรวจสอบก่อนการก่อสร้าง ตรวจสอบก่อนการทำงานในเรื่องนั้นๆ
การ ตรวจบ้าน นั้นจะทำให้ทราบถึงความจำเป็นที่ต้องมีหรือไม่ ลดข้อผิดพลาดไม่ต้องเสียเงินซ้ำซ้อนที่ต้องแก้ไข แสดงว่าเมื่อเจ้าของบ้านได้มีที่ปรึกษา วิศวกร สถาปนิก ก็เท่ากับว่าเจ้าของบ้านไม่โดดเดี่ยวในการปลูกสร้างอีกต่อไป
4 ความผิดพลาดจากแปลนก่อสร้าง
ตรวจสอบแบบก่อนทำสัญญา หรือก่อนเริ่มงานก่อสร้างให้เรียบร้อยเพราะอาจจะมีการตกหล่นของแบบ แบบขยายที่ไม่ครบ เพราะหากแบบก่อสร้างที่ไม่ระเอียดการระบุสเปควัสดุ ผลิตภัณฑ์ ที่ตกหล่นหรือมีการเปลี่ยนแปลงของแบบต้นฉบับบ่อย อาจทำให้ช่างหรือผู้รับจ้างเข้าใจผิดได้ จนต้องเกิดการรื้อทุบทำใหม่ ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นไปอีก
5 ค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
ค่าใช้จ่ายทีพูดถึงนี้ส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบนอกเหนือตัวบ้านที่ก่อสร้างในสัญญา เช่น
- ค่าดินถมก่อสร้าง หน้าดินถมลงต้นไม้
- ค่าเช่าที่ดินหากหน้างานคับแคมไม่มีที่กองวัสดุ หรือ ทำแคมป์ที่พักช่าง
- ค่าทำรั้ว
- ค่าเดินทางมาทำงานของผู้รับจ้าง
หัวข้อทีกล่าวมาเป็นการยกตัวอย่างยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆอีกมาก ดังนั้นก่อนการตัดสินใจว่าจ้างผู้รับจ้างรายใดก็ตามจำต้องตรวจสอบให้ระเอียดเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดในอนาคตครับ
6 เพื่อนบ้านทัก ฮวงจุ้ยไม่ดี
การที่ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วแต่ต้องกลับมาแก้ไขจุดนั้นจุดนี้นี่ละครับทั้งเวลาทั้งเงิน ปัจจัยทั้งสองอย่างนี้เกี่ยวข้องกับงบประมาณโดยตรง แถมผู้รับเหมาหรือคนงานก็พาลจะเบื่อไปด้วยใช่ว่าแก้ไขแล้วไม่ได้รับเงินนะครับส่วนใหญ่ช่างทำแล้วจะไม่ค่อยอยากรื้อจนเป็นสาเหตุตามมาว่าช่างชุดอาจทิ้งงานผู้รับเหมาหลักก็ต้องจัดหาช่างชุดใหม่เข้ามาใหม่ก็เสียเวลาอีก
หากต้องการบ้านตามฮวงจุ้ย 100%จริงๆก็ควรจะให้ซินแสหรือเพื่อนที่พร้อมจะบอกเรื่องดังกล่าวจัดการตั้งแต่เริ่มทำแบบจะตัดประเด็นเรื่องนี้ไปได้มากถึงไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้นเลยครับ
7 วัสดุขึ้นราคา
เมื่อวัสดุทางงานก่อสร้างขึ้นราคาถ้าจะพูดถึงวัสดุตามสัญญาก่อสร้างกับบริษัทรับสร้างบ้านหรือกับผู้รับเหมาก็คงไม่มีผลกระทบเท่าไรเนื่องจากมีสัญญาชัดเจนอยู่แล้ว แต่ที่เกี่ยวข้องก็เป็นพวกวัสดุที่เจ้าของบ้านจัดหาเองนั้นละที่จะทำให้งบบานปลายดังนั้นต้องติดตามข่าวสารวงการก่อสร้างให้ดีควรทราบว่าช่วงเวลาไหนควรต้องจัดหาวัสดุมาให้หน้างานหรือเป็นไปได้หากมี designer อยู่แล้วก็ให้แจ้งสเปคให้ชัดเจนพร้อมสืบราคาไว้เลยหากจัดหาได้เลยก็ควรจัดเตรียมไว้แต่เนิ่นๆ
พยายามอย่าให้หน้างานก่อสร้างหยุดชะงักจากการรอวัสดุสิ่งของเป็นอันขาดเพราะจะตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้นตามมา เช่นค่าเช่าที่พักคนงาน ค่าเช่าบ้านระหว่างรอบ้านใหม่สร้างจบ ค่าวัสดุที่แพงขึ้น ค่าขนย้ายแรงงานจากที่ต้องย้ายออกไปทำที่อื่นก่อนแล้วจึงกลับมาทำที่เดิมจากการรอวัสดุ
8 การเร่งรีบกับการก่อสร้างมากเกินไป
เช่นวางแผนไว้ว่าจะทำบ้านในต้นปีและจะเข้าอยู่ช่วงปลายปี แต่มีเหตุสุดวิสัยให้มาทำบ้านตอนกลางปีแต่ยังคงจะเข้าอยู่ช่วงปลายปีเช่นเดิมคราวนี้ละการทำอะไรเร่งมากจนเกินความจำเป็นนั้นจะตามมาด้วยข้อผิดพลาด บกพร่องเสมอ เช่นแบบบ้านแทนที่จะตรวจสอบว่าตรงตามที่ต้องการทุกจดแล้วรึไม่ก็ไม่ได้ตรวจสอบระเอียดเพียงแค่ว่ารูปลักษณ์ได้ก็เริ่มก่อสร้างเลย และเมื่อเราได้เห็นสิ่งที่รีบเร่งสร้างแม้จะได้ตามแบบได้มาตรฐานก็ตามแต่ไม่ตรงตามจินตนาการที่คิดไว้เมื่อไรเราจะรู้ว่าจุดนั้นจุดนี้ควรแก้ไขให้ตรงใจเรามากกว่านี้นะ นั่นละจะเป็นส่วนที่ต้องรื้อแก้ไขทำให้ต้องใช้เงินมากขึ้นไปกว่าที่คาดการณ์ไว้
นี่เป็นเพียงประเด็นหลักๆที่คัดมาให้ในการก่อสร้างจริงอาจจะพบเจออะไรมากกว่านี้จึงแนะนำว่าทางที่ดีควรจะมี ที่ปรึกษาก่อสร้าง ไว้คอยแนะนำ ตอบข้อสงสัยในเรื่องแบบนี้แถมยังได้ประโยชน์ในทุกๆเรื่องของการก่อสร้างบ้านของคุณให้ตรงตามวัตถุประสงค์และได้มาตรฐานพร้อมกันไปด้วยครับ
หากสนใจที่จะเลือกใช้บริการ คอนเซาท์ ที่ดีและมีคุณภาพไม่ทิ้งงานที่พร้อมจะค่อยให้คำปรึกษาและตรวจสอบทุกรายละเอียดตั้งแต่ BOQ ตลอดจนจบงานก่อสร้างทีมงาน ทนายบ้าน ยินดีดูแลท่านหมดปัญหาเรื่องงานก่อสร้างและได้บ้านที่มีคุณภาพติดต่อเราได้ที่
- LINE: Petcons08
- CALL: 0948646663